ยังจะได้ไปแวะชมงานศิลปะ กันที่หอศิลปไตยวน จะมีการจัดแสดงนิทรรศการศิลปกรรมร่วมสมัย “เชียงแสนพลังแห่งศรัทธา” ของจิตรกร ชานนท์ ปัญจะศรี ระหว่างวัน ที่ 19 ธันวาคม ปีนี้ล่วงเลยไปถึงวันที่ 19 มกราคม ปี 2553
กล่าวถึงชานนท์ คนพื้นเพชาวเชียงราย เดินหลักตามความเชื่อคำสอนของพุทธศาสนาในการใช้ชีวิตและการทำงานศิลปะ
งานจิตรกรรมของเขา สะท้อนความรู้สึกที่มีต่อสถาปัตยกรรม โบราณสถาน ศิลปวัตถุ ที่มีอยู่มาก มายในเมืองเชียงแสน อันมาจากมรดกของกาลเวลาได้สร้างอาณาจักรเมืองเชียงแสน แต่ในขณะเดียวกันนครโบราณแห่งนี้ก็นำมาซึ่งความเสื่อมสาย ท่ามกลางเศษซากปรักหักพัง จิตกาธานของอิฐปูน ความไม่จีรังยั่งยืน เกิดอยู่รายรอบตัวเราทุกขณะ เกิดเป็นความงามขึ้นภายในใจ
“กาล” ที่เปรียบว่ามีตามองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง มีฟันดั่งหินผา มีลิ้นที่ฉาบด้วยเพชร กำลังแลบลิ้นเลียหนังกำพร้าเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ปราชญ์ล้านนาโบราณได้สอนลูก-หลานไว้ว่า “30 ปี๋บ่หน่ายสังขาร” หมายความว่า...คนที่มีอายุอยู่ในช่วง 30 – 40 ปีถือเป็นคนวัยหนุ่ม-สาว วัยทำงานที่เต็มไปด้วยพลังกายและพลังปัญญาความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะประกอบอาชีพการงานอะไร จะทำด้วยใจรัก ศรัทธา อย่างมุ่งมั่น อย่างไม่รู้จักเบื่อหน่ายชีวิตและการงาน
“ชานนท์ ปัญจะศรี” เป็นคนที่รักการทำงานศิลปะอีกคนหนึ่งที่อยู่ในวัย 30 ปีต้นๆ ด้วยความศรัทธาอย่างมุ่งมั่นต่ออาชีพการงาน นั่นก็คือ การวาดรูปด้วยจิตวิญญาณ อันเป็นการต่อยอดจากการศึกษาเล่าเรียนที่ผ่านมา
เขาบอกว่า...หลังจากที่เรียนจบศิลปะจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลล้านนา ก็ได้ออกมาประกอบอาชีพการงานหลายอย่าง หลายปี แต่ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะเป็นมนุษย์เงินเดือน ทำงานตามนายสั่ง ไม่มีความคิดที่เป็นอิสระเป็นนายของตนเอง พลังก็มีแต่จะถดถอยไปทุกวัน เพราะไม่ได้ทำในสิ่งที่อยากทำ จึงได้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เพื่อการวาดรูปเพียงอย่างเดียวตามความใฝ่ฝัน อยากที่จะประสบความสำเร็จจากการวาดรูปมากกว่าการงานอื่นที่ไม่ใช่โฉลกของตน เอง อยากเป็นศิลปินเหมือนกับพวกพี่ๆ
เมื่อเขาได้ออกมาทำงานวาดรูป จนมีผลงานเป็นที่ประจักษ์แจ้งตามความใฝ่ฝัน ก็อยากจะเผยแพร่ให้คนอื่นได้รับรู้และได้แสดงข้อคิดความเห็น วิพากษ์ วิจารณ์ เพื่อพัฒนาก้าวย่างต่อไป
“เชียงแสนพลังศรัทธา” เป็นการแสดงผลงานศิลปกรรมครั้งแรกในชีวิตของชานนท์ เป็นการแจ้งเกิดในโลกศิลปะของศิลปินน้องใหม่ไฟแรง เพื่อต้องการจะพิสูจน์ตนเอง โดยมีโบราณสถาน ศิลปวัตถุ อันเป็นซากปรักหักพังของอาณาจักรเชียงแสนในอดีต นำมาเป็นสื่อกลางในการขับเคลื่อน
ทั้งฝีมือ พลังปัญญาความคิดสร้างสรรค์ จะทำให้เขาเดินอยู่บนถนนสายศิลปะได้สง่างาม
อย่าลืมไปให้กำลังใจเพื่อนผมกันมากๆนะครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น